THAI FOREST ECOLOGICAL RESEARCH JOURNAL

ISSN 2586-9566 (Print) ISSN 2985-0789 (Online)

ชีพลักษณ์ และนิเวศวิทยาของกำปอง (Microtoena insuavis (Hance) Prain ex Briq.) บริเวณลุ่มน้ำย่อยแม่ลาย อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่

สุนิตย์ษา สุทธิรักษ์1*, สุธีระ เหิมฮึก 1,2, ขนิษฐา เสถียรพีระกุล1,3 และ เกรียงศักดิ์ ศรีเงินยวง1,4
1สาขาวิชาการพัฒนาภูมิสังคมอย่างยั่งยืน คณะผลิตกรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่
2สาขาวิชาพืชไร่ คณะผลิตกรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่
3สาขาเศรษฐศาสตร์เกษตร ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่
4คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่
*ผู้รับผิดชอบบทความ: อีเมล: h.sutheera@gmail.com
บทคัดย่อ

กำปอง (Microtoena insuavis) เป็นพืชที่รู้จักกันน้อย และเป็นที่มาของภูมินามแม่กำปอง วัตถุประสงค์การศึกษาเพื่อทราบลักษณะสัณฐาน ชีพลักษณ์ และนิเวศวิทยาของกำปอง บริเวณลุ่มน้ำย่อยแม่ลาย จังหวัดเชียงใหม่ โดยจำแนกวิธีการศึกษาเป็นสองส่วนคือ 1) ลักษณะสัณฐาน และชีพลักษณ์ ทำการคัดเลือกกล้ากำปอง จำนวน 5 ต้น ศึกษาลักษณะ การเจริญเติบโตด้านความสูง ความโตคอราก การเปลี่ยนแปลงของใบจนถึงการออกดอก ผล และเมล็ดในระยะเวลา 1 ปี นำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ความสัมพันธ์กับปัจจัยแวดล้อม (อุณหภูมิเฉลี่ยและปริมาณน้ำฝน) และ 2) นิเวศวิทยาของกำปองทำการเดินสำรวจตามเส้นลำน้ำที่ 1-4 และวางแปลงสำรวจแบบชั่วคราวขนาด 10 เมตร x 10 เมตร ในเส้นชั้นที่ 1 และ 3 ที่พบการกระจายของกำปอง เส้นลำน้ำละ 4 แปลง บันทึกชนิดพรรณพืช และจำนวนที่พบทุกวิสัยพืช ในกรณีกำปองทำการวัดความโตคอราก และความสูงทั้งหมด และเก็บปัจจัยแวดล้อมด้านภูมิประเทศ และความเข้มแสงในแปลง ผลการศึกษาพบว่า ชีพลักษณ์ของกำปอง สามารถจำแนกช่วงการเจริญเติบโตออกเป็น 4 ระยะคือ ระยะต้นกล้า (Seedling stage) ระยะเยาว์วัย (Juvenile stage) ระยะออกดอก (Anthesis stage) และระยะติดเมล็ด (Frutescence stage) โดยการเจริญเติบโตของกำปองในด้านความโตคอราก และความสูงทั้งหมดตลอดชีพลักษณ์ของกำปอง มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับอุณหภูมิเฉลี่ย (r = 0.20 และ 0.23 ตามลำดับ) และพบว่าความโตคอราก และความสูงทั้งหมด มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับปริมาณน้ำฝน (r = 0.48 และ 0.27) ในทางตรงกันข้ามความยาวช่อดอกมีความสัมพันธ์เชิงลบกับอุณหภูมิเฉลี่ย และปริมาณน้ำฝน (r = 0.18 และ 0.29) แสดงให้เห็นว่าอุณหภูมิเฉลี่ยและปริมาณน้ำฝนมีผลต่อการเติบโตของกำปอง อย่างไรก็ตามอุณหภูมิเฉลี่ยและปริมาณน้ำฝนที่สูงเกินไปกลับส่ง ผลกระทบต่อการเติบโตของช่อดอกที่เจริญเป็นผลในอนาคต ในส่วนนิเวศวิทยาของกำปอง บริเวณเส้นลำน้ำที่ 1 และ 3 พบจำนวนต้นกำปอง ขนาดความโตคอรากเฉลี่ย และความสูงเฉลี่ยแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ สอดคล้องกับปัจจัยแวดล้อมทางกายภาพ คือ ทิศด้านลาด ความลาดชัน ระยะห่างจากแหล่งน้ำ และความเข้มแสง ที่มีความแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิตินั่นเอง ผลการศึกษาสามารถใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการอนุรักษ์กำปอง พืชที่เป็นภูมินามให้คงอยู่คู่ชุมชน และสามารถนำไปต่อยอดในการสร้างอัตลักษณ์ของชุมชนแม่กำปอง ด้านการใช้ประโยชน์เป็นพืชสมุนไพรในอนาคต

คำสำคัญ: กำปอง ชีพลักษณ์ ภูมินาม


Download full text (Thai pdf): 5 clicks